วันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

แมวแสนรู้


นกแสนรู้

นกกระตั้ว เจ้านกขี้เล่น แสนฉลาด

นกกระตั้ว เจ้านกขี้เล่น แสนฉลาด



นกกระตั้ว (Cockatoo)


ลักษณะและพฤติกรรมนกคอคคาทู (มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์)

          "นกกระตั้ว" มีชื่อเป็นภาษามาเลเซียว่า "Cockatoo" แปลว่า พ่อเฒ่า หรือ คีมเหล็ก เนื่องจากความคมกริบของจะงอยปากของเจ้านกกระตั้ว แต่เมื่อได้รับการดูแลเลี้ยงดูอย่างเหมาะสม จะรู้ว่าเจ้านกสังคมชนิดนี้มีความน่ารักเป็นที่สุดในบรรดาสัตว์ต่างๆ โดยนกกระตั้วนั้นถือได้ว่าเป็นนกที่ฉลาดและขี้เล่นเป็นอย่างมาก ทำให้มีผู้เลี้ยงนกชนิดนี้เพิ่มมากขึ้นเพราะหลงใหลไปความน่ารักของมัน

          นกกระตั้วนั้นมีความแตกต่างจากนกแก้วในด้านรูปร่างลักษณะและพฤติกรรม ดังต่อไปนี้
รูปร่างและความแข็งแรงของจะงอยปาก

          นกกระตั้วใช้จะงอยปากจิกที่ผิวหนังของมนุษย์ จะทำให้เกิดรอยถึง 3 จุดในครั้งเดียว โดย 2 จุดแรกจะเกิดจากจะงอยปากล่าง และอีก 1 จุด เกิดจากจะงอยปากบน และนกกระตั้วยังมีแรงกัดมากอีกด้วย ส่วนนกแก้วโดยทั่วไปจะไม่ซุกซนโดยใช้จะงอยปากเท่ากับนกกระตั้ว นกกระตั้วสามารถกัดจานอาหารพลาสติก และราวเกาะให้หักและขาดออกจากกันได้ นอกจากนี้มันยังสามารถงอซี่ของกรงและหักข้อต่อของกรงได้อีกด้วย ดังนั้นประตูกรงของนกกระตั้ว จึงต้องมีความแข็งแรงและปลอดภัย การเลือกข้อกรงที่มีความเหมาะสมจึงเป็นสิ่งจำเป็นเบื้องต้นที่ต้องคำนึงถึง ในการเลี้ยงนกกระตั้ว ควรหลีกเลี่ยงประตูที่สามารถเลื่อนลง เพราะขณะที่นกทำกิจกรรมต่างๆในกรงอาจทำให้อุปกรณ์ในการเปิดปิดทำงาน โดยประตูจะเลื่อนขึ้นและตกลงมาใส่ตัวนกทำให้นกเกิดอันตรายได้

          นกกระตั้วเป็นนกที่ฉลาดและคล่องแคล่วเป็นอย่างมาก เราจึงไม่ควรวางใจในการใช้กรงทั่วๆ ไปที่มีขายตามท่องตลาด ซึ่งมีการปิดเปิดและอุปกรณ์ล็อกแบบธรรมดา เราควรเพิ่มอุปกรณ์พิเศษ เช่น คลิปสปริง เพื่อให้แน่ใจว่านกจะไม่สามารถเปิดประตูกรงหนีไป ขณะที่เราไม่อยู่บ้าน



นกกระตั้ว


ขนนก กระตั้ว

          นกกระตั้วมักจะมีขนเพียงสีเดียว โดยทั่วไปแล้วจะเป็นสีขาวหรือสีดำ ซึ่งมีผงแป้งเคลือบขนอยู่ แสดงถึงสุขภาพขนที่ดี นกกระตั้วนั้นมีลักษณะพิเศษที่ต่างจากนกชนิดอื่นๆ คือจะมีหงอนที่สามารถขยับได้ โดยหงอนนั้นจะมีลักษณะตามชนิดของนกกระตั้ว เช่น หงอนที่โค้งไปด้านหลัง หรือหงอนที่โค้งไปด้านหน้า

          นอกจากนี้ นกกระตั้วยังมีขนแก้มซึ่งเมื่อลุกตั้งชันจะปกคลุมจะงอยปากและหูที่ซ่อนอยู่ จนเกือบมิด ซึ่งเป็นการแสดงออกทางใบหน้าอย่างหนึ่ง ด้วยเหตุนี้เอง นกกระตั้วจึงเป็นหนึ่งในบรรดาที่มีนกที่มีการแสดงออกทางใบหน้ามากที่สุด โดยการแสดงออกทางใบหน้าของกระนกกระตั้ว Moluccan ตัวผู้ ไม่ว่าจะเป็นหงอน ขนใบหน้าและหูทั้งสองนั้นอาจเกิดขึ้นถึงครึ่งหนึ่งของความสูงของมัน
ความสามารถในการเลียนแบบ

          นกกระตั้วเป็นนกที่พูดเก่ง มันมีความสามารถในการเลียนแบบคำพูด โดยมันมีทักษะในการเลียนแบบ ซึ่งมีพื้นฐานมาจากมาจากความฉลาดของมันนั่นเอง นกกระตั้วยังสามารถถูกสอนให้เต้นรำตามจังหวะร้องเพลง เล่นโรลเลอเสก็ต หรือแม้แต่เล่นชักคะเย่อก็ได้
การปีนป่าย

          นกกระตั้วเกือบจะทุกสายพันธุ์ มีความสามารถในการปีป่ายที่ยอดเยี่ยม เพราะฉะนั้นควรจะเอาสิ่งของต่างๆ มาให้นกปีนเล่นบ้าง
การพักผ่อนและการนอนหลับ

          นกที่มีสุขภาพดีจะพักผ่อนและนอนหลับโดยยืนขาเดียว อีกขาหนึ่งก็จะซุกไว้ในขนของมัน จากนั้นมันจะสลัดขนที่ตัวให้ฟู แล้วมันก็จะหันหัวไปด้านหลังแล้วซุกหัวมันลงที่ขนด้านหลัง เมื่อมันหลับตา ตาของมันก็จะไม่ปิดสนิท





พฤติกรรมการกิน

          นกกระตั้วจะใช้ปากและลิ้นของมัน ช่วยในการเอาเปลือกของเมล็ดพืช ผลไม้และผักออก เหมือนๆกับนกทั่วไป นกตัวใหญ่ส่วนมากแล้วจะใช้เท้าของมันเป็นเหมือนมือ ใช้ถือเศษอาหารแล้วส่งอาหารเข้าปาก เมื่อนกจะดื่มน้ำจะใช้จะงอยปากล่างตักน้ำ จากนั้นก็จะเงยหน้าเพื่อกลืนน้ำเข้าไป

การบินของนก กระตั้ว

          นกกระตั้ว มีความสามารถในการบินที่ยอดเยี่ยม ถ้าเลี้ยงนกโดยมัดหรือผูกล่ามมันไว้ ต้องฝึกและคอยกระตุ้นให้นกกระพือปีกบ้างทุกวันจนกว่านกจะบินได้ การฝึกแบบนี้จะช่วยกระตุ้นให้นกเกิดการเผาผลาญอาหารและป้องกันโรคดึงขนตัว เอง และการส่งเสียงร้องมากเกินกว่าปกติ
การวิ่งและการกระโดด

          พื้นที่ราบหรือมีหญ้าขึ้นปกคลุมดีสำหรับเท้าของนกกระตั้วเวลาพวกมันหาอาหาร บนพื้นดิน สังเกตเห็นว่านกกระตั้วมักจะวิ่งเล่นอยู่ในสวนนกหรือในกรรรงของมันเอง เวลานกวิ่งมันก็จะตั้งตัวตรง และเมื่อเวลามันกระโดด ลำตัวและหงอนของมันจะตั้งตัวตรงด้วยเช่นกัน
การออกกำลังกาย


          นกกระตั้วที่เลี้ยงโดยมัดเอาไว้ นกก็ยังสามารถขยับตัวหรือเคลื่อนไหวตลอดทั้งวัน ถ้าอยู่ในกรงพวกมันก็จะปีนป่ายและออกกำลังกายอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แต่ถ้าอยู่กลางแจ้งมันก็จะปีนป่าย คุ้ยเขี่ย กัดแทะของเล่นหรืออาหาร บินไปมา แต่ถ้าได้รับการฝึกนกก็สามารถเลียนแบบการกระทำต่างๆได้ นก ชนิดนี้มีชื่อเสียงมากทางด้านความคล่องแคล่วว่องไว มีนกกระตั้วหลายตัวที่สามารถถือของได้ ผลักรถของเล่นคันเล็กๆได้ กินอาหารจากช้อน และอื่นๆอีกมากมายที่นกสามารถทำได้

การคุ้ยเขี่ย

          นกกระตั้วบางพันธุ์ชอบคุ้ยเขี่ย บนพื้น บนผ้า อย่างเช่น โซฟาหรือเก้าอี้ตัวที่ดูแน่นๆ พฤติกรรมแบบนี้ได้พัฒนาไปแล้ว เพราะพวกมันพบอาหารของตัวเองบนพื้น การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทั้งหมดเป็นไปเพื่อการหาอาหาร จะเห็นว่านกมีจะงอยปากที่บางและจะงอยปากด้านบนยาวกว่าด้านล่าง ซึ่งเหมาะสมกับการขุดหาอาหารนั่นเอง

ความผูกพันต่อเจ้าของ

          นกกระตั้วนั้นจะผูกพันกับผู้เลี้ยงมาก การแยกจากผู้เลี้ยงนั้นจะส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของนก ทำให้นกก้าวร้าว ผู้เลี้ยงจึงต้องให้ความสนใจเอาใจใส่ต่อนกเป็นประจำทุกวัน เมื่อนกกระตั้วผูกพันกับผู้เลี้ยงมากอาจก่อให้เกิดปัญหาดังนี้

          ความก้าวร้าวของนกซึ่งเกิดจากความอิจฉาและหวงเจ้าของอาจส่งผลทำให้นกทำร้าย ผู้อื่นได้ นกกระตั้วที่ติดเจ้าของมาก อาจไม่ยอมหาคู่และไม่สามารถผสมพันธุ์ได้



ความขี้เล่นและเสียงร้อง

          นกกระตั้วเกือบทุกสายพันธุ์มีนิสัยขี้เล่นและมีความฉลาด นกกระตั้วสามารถเล่นเกมและออกกำลังกาย โดยการบิน การสะบัดตัว และสามารถใช้อุปกรณ์ต่างๆได้เอง โดยกิจกรรมเหล่านี้จะถูกปฏิบัติตลอดทั้งวัน โดยที่ผู้เลี้ยงไม่ขัดจังหวะ แต่จะมีการหยุดพักเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ทั้งนี้เพื่อว่านกจะมีภาวะทางอารมณ์คงที่ ขณะที่นกกำลังเล่นจะส่งเสียงร้องที่ดังมาก ซึ่งโดยมากนกสายพันธุ์นี้อาจเพิ่มความดังของเสียงร้องมากขึ้นได้
การอาบน้ำ

          นกกระตั้วทุกตัวต้องอาบน้ำ มันจะกางปีกและแผ่ขนหาง ในขณะที่อาบน้ำมันจะบิดตัว หมุนตัวและตีปีก ด้วยเหตุนี้ขนของมันก็จะเปียกอย่างทั่วถึง

พฤติกรรมชอบความสบาย

          เกาหัว นก จะใช้เท้าเกาหัวตัวเองในขณะที่มันก้มหัวลง นกบางตัวจะใช้กิ่งไม้ช่วยในการเกา นกมีพฤติกรรมแปลกอยู่บ้าง คือความลังเลทำอะไรช้า อาการเกาหัวดูเหมือนใครบางคนว่ายน้ำอยู่มากกว่า พฤติกรรมแบบนี้มักจะพบในนกที่ยังไม่มีคู่ บาทีมันก็จะจับคู่กันแล้วไซ้ขนให้กัน

          การไซ้ขน นกกระตั้วจะไซร้ขนตัวเองวันละหลายครั้ง โดยใช้จะงอยปากดึงขนออกมาไซ้ที ละเส้นๆ การไซ้ขนเริ่มจากขนเส้นเล็กๆ ก่อน จากนั้นก็จะขัดขนส่วนหลักๆ ส่วนรองลงมาจนถึงขนที่หาง สุดท้ายจึงจะทำความสะอาดหัวและปาก



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก wikipedia.org

วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

สุนัขน่ารักๆ


ปอมเมอเรเนี่ยน (Pomeranian)

สุนัขในกลุ่ม Toy Group ปอม เมอเรเนี่ยน มีถิ่นกำเนิดจากประเทศเยอรมนี เป็นสุนัขพันธุ์เล็กที่กำลังมาแรงอย่างต่อเนื่อง ขึ้นจากอันดับ 3 ในปีก่อน ด้วยความเล็กกะทัดรัด ขนฟูดูสวยงาม ใบหน้าแหลมเล็ก หลายคนหลงใหลในความน่ารักของสุนัขพันธุ์นี้ ลักษณะโดยทั่วไป มีความสูงโดยเฉลี่ยไม่เกินฟุต หรือประมาณ 20 เซนติเมตร หัวกลม ใบหน้ามีส่วนคล้ายสุนัขจิ้งจอก ปากเรียวแหลม ส่วนหัวและใบหน้ามีขนสั้น ตากลมโตและโปนเล็กน้อย หูเล็กเป็นรูปสามเหลี่ยมตั้งตรงและชิดกัน จมูกดำกลม ขนยาวฟูฟ่องทั่วลำตัว ขนสีดำ โกโก้ แดง ส้ม ขาว เหลือง บางตัวมีหลายสีปนกัน ขนทั้งตัวจะปกคลุมด้วยขนยาว ดก ฝ่าเท้านิ่ม ขนหางเป็นพวงโค้งเป็นวงกลมออกด้านข้าง นอกจากความเล็กน่ารักแล้ว ความฉลาด ซื่อตรงและร่าเริง ปฏิภาณไหวพริบดี และขี้ประจบของปอมเมอเรเนี่ยน ยังเป็นจุดเด่นที่ทำให้เจ้าของต่างหลงใหล แต่ขณะเดียวกันความเล็กของสุนัขพันธุ์นี้จึงมักมีผลต่อการขยายพันธุ์ที่ค่อน ข้างลำบาก ให้ลูกน้อย

โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever)

สุนัขในกลุ่ม Sporting Group โกลเด้นรี ทรีฟเวอร์ มีถิ่นกำเนิดจากประเทศอังกฤษ ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์มามากกว่า 200 ปี ในอเมริกา เป็นสุนัขขนาดกลาง ตัวผู้สูงราว 23-24 นิ้ว หนักประมาณ 64-70 ปอนด์ ตัวเมีย สูง 21-23 นิ้ว น้ำหนัก 60-70 ปอนด์ มีสีหลายระดับสี มักจะเป็นสีออกครีมถึงสีเหลืองทอง จนถึงกึ่งเข้มแดงมะฮอกกานี เป็นสุนัขที่มีลักษณะหัวกว้าง และมีช่วงปากที่แข็งแรง ตาสีน้ำตาล หูค่อนข้างใหญ่เป็นรูปสามเหลี่ยม ปรกลงมาด้านข้าง มีขน 2 แบบ คือเรียบกับเป็นลอน ขาหน้าตรงแข็งแรง เท้ากลมคล้ายเท้าแมว ลักษณะหางชี้ตรงระดับเดียวกับหลัง ขนบริเวณหางจะยาวและหนา นอกจาก ความสวยของขนที่มันวาว สวยงาม ทำให้สุนัขพันธุ์นี้ได้รับความนิยมมาก โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ ยังได้รับสมญานามว่า "หมาใจดี" บ่อยครั้งที่ภาพความผูกพันระหว่างเจ้าตูบโกลเด้น กับเด็กๆ มักมีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง นั่นเพราะมีลักษณะนิสัยเป็นมิตร และสุภาพเป็นเลิศ ใจดี ซื่อสัตย์ มีความสามารถพิเศษในการจดจำ ง่ายต่อการฝึกฝน กระฉับกระเฉง และคาบสิ่งของได้ดี ในอดีตจึงมักใช้งานเพื่อหานกที่ถูกยิงตกนำมาให้เจ้าของ โกลเด้นรีทรี ฟเวอร์ เคยเป็นสุนัขยอดนิยม มีผู้เข้าขอจดทะเบียนมากเป็นอันดับ 1 ในปีก่อน แต่ปีล่าสุดนี้กลับถูกสุนัขพันธุ์เล็กแซงหน้าไปเสียแล้ว
เพิ่มคำอธิบายภา

ชิสุ (Shih Tsu)

สุนัขในกลุ่ม Toy Group ชิ สุ มีถิ่นกำเนิดจากประเทศจีน ได้ชื่อว่า "สุนัขพันธุ์ราชสีห์" เพราะมีขนแผงคอเหมือนสิงโต อีกทั้งท่าทางการเดินหรือเคลื่อนไหวที่สง่างาม เดินตรงเชิดหน้าคอเหยียดและมีพวงหางขนยาวจะปกคลุมลงบนหลังชัดเจน ในอดีตจึงเป็นสุนัขที่เลี้ยงกันในราชสำนักของจักรพรรดิ นับเป็นสิ่งสูงค่าสำหรับสามัญชน เป็นสุนัขที่มีชนชั้น ชิสุ เมื่อโตเต็มที่น้ำหนักไม่เกิน 18 ปอนด์ สูงประมาณ 9 -10.5 นิ้ว รูปร่างเล็กแต่มีขนยาว เป็นขนสองชั้น หนา ยาวตรงหรือเป็นคลื่นเล็กน้อยปกคลุมลำตัว ขนบนหัวควรผูกรวบให้เรียบร้อย ป้องกันดวงตา ขนที่ก้นและเท้าต้องตัดให้เรียบร้อยเช่นกันเพื่อความสะอาด สุนัขพันธุ์นี้ต้องการการแปรงขนทุกวัน ผู้เลี้ยงต้องมีเวลาในการแปรงขนอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง ลักษณะของชิสุ ที่ดี ควรมีลักษณะขนยาว ไม่ม้วนหยิก สีของขนเป็นสีผสมกันของสีดำ น้ำตาล ขาว มีสีขาวเป็นสีพื้น ส่วนกะโหลกกว้างอย่างสมดุล ตากลมโต นัยน์ตาสีดำ หรือจะเป็นสีน้ำตาลสีตับ แววตาร่าเริงแจ่มใสและเป็นมิตรต่อทุกสิ่ง ส่วนปากสั้นยาวไม่เกิน 1 นิ้ว และไม่มีรอยย่นของผิวหนังรอบปาก ปากไม่แหลม คางไม่ยื่น คอควรตั้งตรงยาวได้เซ็นเซอร์-->--> ส่วนกับลำตัว ลักษณะลำตัวของชิสุต้องมีความยาวของลำตัวมากกว่าความสูงเล็กน้อย อกใหญ่ ลึก หางจะต้องโค้งตั้งขึ้นมาบนหลัง ไม่ห้อยลง มีขนขึ้นเป็นพวงสวยงาม แม้ ชิสุ จะเป็นสุนัขขนาดเล็ก แต่ก็ได้ชื่อว่า "เล็กแต่อึด" หากมีสุขภาพดีจะเป็นสัตว์ที่มีความทรหดอดทนสูง มีความแข็งแรงดุจสุนัขใช้งาน แต่ข้อดีของสุนัขพันธุ์ชิสุที่สร้างเสน่ห์อย่างดีก็คือ ฉลาด เป็นมิตร มีเสน่ห์ ไม่ดุร้าย ไม่เจ้าอารมณ์ เหมาะสมกับบ้านทุกชนิด จากสิถิ ติที่ผ่านมา ชิสุ เป็นสุนัขพันธุ์เล็กที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหตุอาจเพราะปัจจุบันผู้นิยมเลี้ยงสุนัขมีที่อยู่อาศัยที่เล็กลง ส่งผลให้สุนัขพันธุ์เล็กเพิ่มจำนวนมากขึ้นไปด้วย และด้วยการขยายพันธุ์ที่ง่ายกว่า ชิสุจึงมาแรงแซงสุนัขพันธุ์เล็กพันธุ์อื่น รวมถึงลักษณะขนและหน้าตาสร้างความเพลิดเพลินในการเลี้ยงดูของเจ้าของที่ชอบ แต่งตัวให้สุนัข
 แต่คงไม่เหมาะนักสำหรับเจ้าของที่ไม่มีเวลา 

ชิ วา วา (พันธุ์ขนเรียบ),(Chihuahua smooth coat)

สุนัขในกลุ่ม Toy Group ยัง คงครองอันดับ 10 อย่างอยู่ตัว ตั้งแต่ ปี 2545 เป็นสุนัขพันธุ์เล็ก ขนาดพกพา ตาโต ถิ่นกำเนิดมาจากประเทศเม็กซิโก อดีตเป็นสัตว์ที่เป็นอาหารและถูกบูชายัญ มีสองสายพันธุ์คือ พันธุ์ขนเรียบและพันธุ์ขนยาว ชิ วา วา มีความสูงไม่เกิน 5 นิ้ว มีน้ำหนักเฉลี่ย 0.9 - 2.7 กิโลกรัม จัดว่าเป็นสุนัขพันธุ์ที่เล็กที่สุดในโลก มีทั้งสีขาว สีน้ำตาลอ่อน สีทราย สีดำ อาจมีสีเดียวอย่างแดงน้ำตาล ทอง หรือสลับขาวน้ำตาล หัว หน้าผากต้องกลมโค้งเป็นรูปแอปเปิ้ล หูตั้ง ปากสั้นแหลม ขนสั้น ถ้าเป็นพันธุ์ขนยาวจะไม่หยิกม้วน สุนัขพันธุ์นี้หลายคนต่างหลงใหล เพราะเป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์ มีเสน่ห์ ขี้ประจบ เป็นสุนัขเฝ้าระวัง เตือนภัยได้ดี เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่ไม่มาก แต่ไม่ชอบอากาศเย็น 

วันพุธที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

*** บางแก้ว *** สุนัขไทย หัวใจเกินร้อย


ถ้าจะเลี้ยงสุนัขสักตัวมาเป็นเพื่อน... สุนัขตัวนั้นน่าจะ... เขาต้องรักเจ้าของและสมาชิกทุกคนในบ้าน... ซื่อสัตย์มากๆ... มีความฉลาดที่ดีเยี่ยม... เป็นเพื่อนเล่นที่คอยกระดิกหางเมื่อเจ้าของสบตาตลอดเวลา... มีความจงรักภักดีอย่างถวายชีวิต... ปกป้องเจ้าของจากโจรผู้ร้ายได้ ...เป็นตัวกำจัด งู-หนู-ตะขาบ หรือสัตว์เลื้อยคลานมืออาชีพ...
ป้องกันทรัพย์สินจากผู้บุกรุก... แสนรู้ ว่านอนสอนง่าย... ไม่ก้าวร้าวดุดัน มีความน่ารักสวยงาม...เจ้าประจบ... มีขนที่นุ่มสวย... มีรูปร่างองอาจสง่างาม... มีความปราดเปรียวว่องไว... มีความจำเป็นเลิศ... ไม่มีกลิ่นตัวแม้ไม่อาบน้ำเป็นเวลานาน... เป็นสิ่งสวยงามประดับบ้าน... ไว้โชว์ความสวยงามให้คนรู้จักได้เห็น... เป็นยามรักษาการ... เป็นตัวตลกได้ตลอด ...ฯลฯ
*** มีสุนัขในหลายๆสายพันธุ์ที่มีมาตรฐานนี้ และรวมถึงสุนัขไทย ซึ่งดูเหมือนจะยืนอยู่ในแถวหน้าเลยทีเดียว

          ต้นกำเนิดของ สุนัขพันธุ์บางแก้ว อยู่ที่ วัดบางแก้ว ต.บางแก้ว อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก สุนัขพันธุ์บางแก้ว เป็นสายเลือดผสมระหว่าง สุนัขพันธุ์ไทยพื้นบ้าน กับสุนัขป่า เนื่องจากภูมิประเทศแถบ ต.บางแก้ว  สมัยก่อนค่อนข้างมีลักษณะเป็นป่ามีต้นไม้หนาแน่น เป็นที่อาศัยของพวกสุนัขจิ้งจอก และสุนัขไน หรือที่เรียกว่า หมาไน ทำให้เกิดผสมพันธุ์กันระหว่าง สุนัข ทั้ง 3 สายพันธุ์ จนในที่สุดก็ได้เป็น "สุนัขพันธุ์บางแก้ว" ที่ มีลักษณะหลายสีเหมือนสุนัขบ้าน มีขนยาวสองชั้นเหมือนสุนัขป่า หูป้องไปข้างหน้าเหมือนจิ้งจอก ดุ รักถิ่นฐานเหมือนสุนัขบ้าน และกล้าหาญเหมือนสุนัขไน

          ต่อมา สุนัขพันธุ์บางแก้ว จึงนำมาเลี้ยงทั่วไปตามบ้าน เนื่องจากมีลักษณะเฉพาะ สวยงาม เลี้ยงง่าย ฝึกง่าย จึงทำให้ สุนัข บางแก้ว นี้กลายเป็นที่นิยมเลี้ยงกันมากใน จ.พิษณุโลก ตลอดจนถึงปัจจุบัน ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า สุนัขพันธุ์บางแก้ว เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของจังหวัดพิษณุโลก อีกทั้งยังสร้างชื่อเสียงและทำรายได้ระดับประเทศ
สุนัขพันธุ์บางแก้ว สุนัขไทย เฉลียว ฉลาด หวงเจ้านาย
    สุนัขพันธุ์บางแก้ว จะมีขนาดเท่าสุนัขไทย หรือเล็กกว่าเล็กน้อย ขนปุยยาว สง่างาม ว่องไว แข็งแรง เวลายืนมักเชิดหน้าและโก่งคอคล้ายม้า หัวกะโหลกใหญ่ ปากยาวแหลม หูเล็กสั้นตั้งป้องไปข้างหน้า ลักษณะเด่นของ สุนัข บางแก้ว คือ ภายในหูจะมีขนปลายปิดรูหูคล้ายหมาจิ้งจอก ตาเล็กกลมรี พื้นสีตาเป็นสีเหลืองทองคล้ำ ขณะโกรธจะขึ้นแววสีฟ้าใส หรือที่เรียกว่า ตาเขียว จมูกสีดำ ฟันซี่ เล็กขาวคม หางต้องเป็นพวงสืบทอดมาจากสุนัขจิ้งจอก ตั้งโค้งไปข้างหน้า หางพุ่งไปด้านหลังแล้วโค้งตั้งขึ้น และเป็นพวงลาดแบบแทงดินอย่างหางม้า

          ส่วนเสียงเห่าของ สุนัขพันธุ์บางแก้ว จะแหลมเล็กกว่าสุนัขไทย เวลาวิ่งจะซอยเท้าถี่ สีของ สุนัข บางแก้ว ที่นิยม คือ สีขาวปลอด ขาวน้ำตาล ขาวดำ ทั้งนี้ สุนัขพันธุ์บางแก้ว ขึ้นชื่อมากเรื่องความดุ มีความซื่อสัตย์ต่อเจ้าของ รักและหวงเจ้าของ ไม่ชอบคนแปลกหน้า มีความสามารถในการดมกลิ่นเป็นเลิศ จำเสียงได้แม่นยำ กินอาหารง่าย มีความกล้าหาญ กล้าที่จะสู้กับสุนัขที่ตัวโตกว่า

          นอกจากนี้ สุนัขพันธุ์บางแก้ว ยังมีประสาทตื่นตัวอยู่เสมอแม้นอนหลับ บางแก้ว เป็น สุนัข ที่ชอบเล่นน้ำ เมื่อหมอบข้อศอกจะแนบกันพื้นและเท้าหลังจะแบออกทั้งสองข้าง ก่อนจะกินน้ำในอ่าง บางแก้ว ชอบเอาเท้าหน้าข้างหนึ่งข้างใดจุ่มลงไปในอ่างก่อน เวลาขู่จะเหยียดขาหน้าพุ่มไปข้างหน้า แล้วผงกหัวและแผงขนหลังตั้งขึ้นพร้อมกับส่งเสียงขู่  สุนัขพันธุ์บางแก้ว ชอบกินเนื้อสัตว์และปลา เนื่องจากหมู่บ้านบางแก้ว อาชีพหลักของชาวบ้านแถบนั้นคือ จับปลา ค้าปลาน้ำจืด และเลี้ยง สุนัขพันธุ์บางแก้ว ไว้บนแพ อาหารที่ได้จึงหลีกไม่พ้นปลา แต่อาหารอื่นๆ ก็กินได้เช่นกัน
ถ้าสุนัขในอุดมคติที่คุณต้องการ มีมาตรฐานไกล้เคียงนี้ ผมขอเสนออีกหนึ่งทางเลือกครับ สุนัขเอนกประสงค์ ตัวจริง *** บางแก้ว *** สุนัขไทย หัวใจเกินร้อย......

คิดก่อนเลี้ยง

Click here to see a large version
เพิ่มคำอธิบายภาพ
ข้อคิด สำหรับคนที่อยากจะตัดสินใจ เลี้ยงสุนัข



สุนัข เป็นสัตว์เลี้ยงที่ซื่อสัตย์ เป็นเพื่อนที่ดีของมนุษย์ แต่ในการหาสุนัขมาเลี้ยงสักตัวก็มีสิ่งที่ต้องคิดคำนึงถึงปัจจัยหลายๆ อย่างด้วยเช่น

- ความรักและความพร้อมในการเลี้ยงดู สุนัขเป็นสิ่งมีชีวิตเป็นสัตว์ที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่จากเจ้าของค่อนข้าง มาก ดังนั้นหากคิดจะเลี้ยงสุนัขสักตัวควรถามตนเองว่ามีความรักสุนัขมากน้อยแค่ ไหน มีเวลาดูแลเอาใจใส่ เล่นกับสุนัขหรือไม่



- สภาพบ้านที่อยู่อาศัย การเลี้ยงสุนัขควรคำนึงถึงที่อยู่อาศัยของตัวเรา บ้านที่เราอยู่มีลักษณะเช่นไร มีพื้นที่มากน้อยแค่ไหน เพราะสุนัขเป็นสัตว์ที่ต้องการพื้นที่ในการวิ่งเล่น ยิ่งสุนัขสายพันธุ์ใหญ่ ต้องการการออกกำลังกายและพื้นที่มากขึ้น


- สมาชิกในครอบครัว การคิดจะหาสุนัขมาเลี้ยงควรคำนึงถึงสมาชิกในครอบครัวว่าครอบครัวเรามีใครแพ้ ขนสุนัขหรือไม่ มีเด็กเล็กหรือคนชราหรือเปล่าหากมีก็ไม่ควรเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ใหญ่ หรือสุนัขที่มีนิสัยดุ เพราะอาจเกิดอันตรายได้



-สาย พันธุ์ของสุนัขที่นำมาเลี้ยง การเลี้ยงสุนัขควรศึกษาสายพันธุ์ของสุนัขว่ามีนิสัยอย่างไร มีข้อดีข้อเสียเช่นไร ชอบหรือไม่ชอบอะไร ต้องเลี้ยงและดูแลอย่างไร เพื่อเป็นข้อมูลและเลือกสายพันธุ์ให้เหมาะสมกับตัวเรา



สุนัข เป็นสัตว์เลี้ยงที่มีชีวิตจิตใจ ที่เราต้องให้ความรักการดูแล การออกกำลังกาย ดังนั้นหากคิดจะเลี้ยงสุนัขสักตัวควรที่จะมีเวลาดูแลใส่ใจ ไม่ควรทิ้งขว้าง แกล้งหรือกักขังเขาไว้ตลอดเวลา เพราะสุนัขจะเกิดความเครียด และเกิดดุร้ายขึ้นได้

เรื่องโดย : นฤภัค ฤธาทิพย์/กรมสุขภาพจิต
ที่มา : ข่าวสดออนไลน์

เพิ่มคำอธิบายภาพ